ปะการังเป็นสัตว์ที่สามารถสืบพันธุ์ได้
2
แบบ คือ แบบไม่อาศัยเพศและอาศัยเพศ
1.การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
กลุ่มของปะการังนั้นเริ่มต้นการมีชีวิตโดยการเป็นตัวอ่อนที่เรียกว่า
พลานูลา (planulae)
ซึ่งเป็นผลผลิตจากการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของปะการัง ตัวอ่อนนี้สามารถเคลื่อนที่ออกห่างจากกลุ่มปะการังพ่อแม่พันธุ์
มันอาจจะลงเกาะที่บริเวณอีกด้านหนึ่งของแนวปะการัง
หรืออาจลงเกาะในแนวปะการังแหล่งอื่นก็ได้ เมื่อตัวอ่อนพบแหล่งอาศัยที่เหมาะสมมันจะลงเกาะบนพื้นล่าง
หลังจากนั้นมันจะพัฒนาเป็นเซลล์เดี่ยวของปะการังที่เรียกว่าโพลิป
เซลล์โพลิปจะเริ่มสร้างโครงร่างแข็งและแตกหน่อโพลิปใหม่หลาย ๆ อัน แล้วกลุ่มปะการังกลุ่มใหม่ก็เริ่มเติบโต
เซลล์สืบพันธุ์ของปะการังคือเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้
และ ไข่ ส่วนโพลิปที่สามารถผลิตได้ทั้งเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และไข่
ปะการังตัวนั้นเรียกว่า hermaphrodite หรือเป็นกะเทยนั่นเอง
แต่ถ้าหากว่าโพลิป สร้างไข่ หรือสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ปะการังตัวนั้นเรียกว่า dioecious
โพลิปจำนวนมากของปะการังจะปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ออกมาทางปากของมันออกสู่ในมวลน้ำ
ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า การออกไข่ เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้จะผสมกับไข่นอกตัวปะการัง
การผสมพันธุ์นอกตัวนี้เรียกว่าการผสมภายนอก
ปะการังที่มีการสืบพันธุ์โดยการผสมพันธุ์ภายนอกนี้เรียกว่า spawners
นอกจากนี้ยังมีการผสมพันธุ์อีกวิธีหนึ่งคือไข่จะผสมพันธุ์ภายใน
โพลิปของปะการัง ซึ่งเรียกว่าการผสมพันธุ์ภายใน
ปะการังที่มีการผสมพันธุ์ภายในตัวนี้จะเรียกว่า brooders
ตัวอ่อนที่เกิดจากการออกไข่ของปะการังนั้นจะมีการพัฒนาในน้ำ
มันจะถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำ ในเวลาเดียวกันมันก็จะลงเกาะในแนวปะการัง ซึ่งบางครั้งก็จะลงเกาะห่างจากที่มันเกิดหลายกิโลเมตร
ปัจจุบันพบว่าปะการังจำนวนมากจะปล่อยไข่ในเวลาเดียวกัน ในช่วงไม่กี่วันของแต่ละปี การปล่อยไข่ออกมาพร้อมกันนี้ทำให้มีเซลล์สืบพันธุ์ของปะการังลอยอยู่ในน้ำจำนวนมาก
ซึ่งเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และไข่มีโอกาสผสมพันธุ์กันง่ายขึ้น
และมากขึ้นและยังลดอัตราการตายจากการถูกกินโดยศัตรูอีกด้วย
ส่งผลให้มีอัตราการรอดมากขึ้น
สำหรับปะการังที่มีการผสมพันธุ์ภายในตัวนั้น
ตัวอ่อนจะมีการพัฒนาและว่ายน้ำหาที่เหมาะสมลงเกาะ
บางครั้งตัวอ่อนจะว่ายน้ำเพียงระยะสั้น ส่วนมากจะลงเกาะห่างจากกลุ่มพ่อแม่ไม่เกินหนึ่งเมตร
2.
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของปะการังนั้นเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งของการสร้างปะการังกลุ่มใหม่ ที่เรียกว่าการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เนื่องจากว่าไม่มีการผลิตเซลสืบพันธุ์และไม่มีการผสมพันธุ์
ดังนั้นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศนี้ ปะการังกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นมาจะมีพันธุกรรมเหมือนกับพันธุกรรมของกลุ่มพ่อแม่
และลูกปะการังที่เกิดใหม่นี้ไม่สามารถคลื่นที่ไปไกลจากบริเวณที่พ่อแม่อยู่ได้
ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นมานั้นมักจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวอ่อนที่เกิดจากการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
กระบวนการ fragmentation
หรือการหักกิ่ง (branch-breakage) นั้นเป็นวิธีที่พบเห็นบ่อยในแนวปะการัง
ปะการังกิ่งที่บอบบางนั้นง่ายต่อการแตกหักจากแรงคลื่น สัตว์น้ำ
หรือการกระทำของมนุษย์ ซึ่งปะการังชิ้นที่แตกหักนั้นประกอบด้วยตัวปะการังจำนวนมาก
ถ้าหากว่าสภาพแวดล้อมเหมาะสม
ปะการังที่แตกหักเหล่านี้จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แม้อยู่ห่างจากกลุ่มพ่อแม่
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศนี้มักจะเป็นการสร้างกลุ่มประชากรหลักของปะการังขึ้นมา
ซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถเพิ่มจำนวนปะชากรได้อย่างรวดเร็ว ปะการังที่มีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศนี้จะมีอายุสั้นมากกว่าปะการังที่สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
การกระจายตัวของปะการังที่สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศมักจะกระจายเป็นกลุ่มๆ
ในขณะที่พวกอาศัยเพศกระจายอยู่ทั่วไปและไกลกว่า
รูปแบบและการแพร่กระจายของปะการังในประเทศไทย
1.
กลุ่มปะการัง (Coral Community) เป็นบริเวณที่มีก้อนปะการังกระจายอยู่ตามพื้น
จะไม่พบหินปูนที่เกิดจากการสะสมทับถมกันของปะการังได้เด่นชัด ความลาดชันของพื้นเป็นไปตามลักษณะของชายฝั่ง มิใช่เกิดจากการสร้างแนวปะการังการแพร่กระจายของปะการังจึงเป็นไปตามลักษณะฝั่ง
จะพบกลุ่มปะการังในบริเวณที่มีพื้นแข็ง เช่น บริเวณที่มีโขดหิน
บริเวณข้างเกาะเป็นต้น
2. แนวปะการัง (Coral Reef) บริเวณนี้จะเห็นการสะสมตัวของหินปูนที่เกิดจากปะการัง
ซึ่งตายทับถมอยู่ด้านล่างของปะการังมีชีวิตชัดเจน
โดยทั่วไปแนวปะการังนี้มักจะอยู่ห่างจากชายฝั่งออกมา
โดยมีชายหาดด้านในเป็นพื้นทราย ถัดออกมาก็จะพบแอ่งน้ำขนาดใหญ่
ซึ่งมีปะการังอยู่ประปรายในบริเวณที่น้ำไม่ลึกนัก เรียกว่า Reef Flat เวลาน้ำลงมากๆ ปะการังจะโผล่เหนือน้ำเล็กน้อยเป็นสาเหตุที่ด้านบนผิวหน้าของปะการังจะตายแล้ว
จึงมาถึงแนวปะการัง ซึ่งมีปะการังขึ้นทับถมกันมากมาย
เป็นบริเวณที่มีพลังงานหมุนเวียนมาก เพราะในบริเวณนี้จัดได้ว่าเป็นบริเวณ
ปะทะคลื่น (Wave Front)
No comments:
Post a Comment